วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

"คล็อปป์" ไม่โอเคสื่อหลังโหมข่าว "ซาลาห์" อยากชิ่งลิเวอร์พูล

 เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมาตอบสื่อด้วยตัวเองแล้วหลังมีข่าวลือหนักมากว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกซูเปอร์สตาร์ ไม่มีความสุขจนอยากย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์หลังจบฤดูกาลนี้

"ตลอดปีที่ผ่านมาผมไม่เคยคุยเรื่องการต่อสัญญาใหม่หรือขาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย" คล็อปป์ เปิดประเด็นผ่านงานแถลงข่าว

"ซาลาห์ กำลังเล่นฟุตบอลให้ ลิเวอร์พูล อย่างมีความสุข เขาอารมณ์ดีกับทุกเรื่อง และมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่องทุกสัปดาห์ด้วย นี่คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากกว่า"

"ถ้าใครมาเยือนสนามซ้อมของพวกเราในแต่ละวัน คุณจะได้เห็นภาพ ซาลาห์ หัวเราะกับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนาน เขามีความสุข และพร้อมทำงานหนักเพื่อสโมสรด้วยความเต็มใจตลอดเวลา"

"เมื่อทุกอย่างมันสวยงามขนาดนี้แล้ว ทำไมสื่อถึงพยายามโหมกระแสเรื่องโดนขายทิ้งอยู่อีกล่ะ? แต่ก็เข้าใจได้นะ เพราะต่อให้ผมขอร้องพวกคุณว่าเอาเรื่องดีๆ ไปเขียนบ้างสิ ก็คงไม่มีใครทำตามอยู่แล้วล่ะ"


ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> bossufabet.com | beufabet.com

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563

บาร์ซ่ากู้ฟอร์มส่ง "เมสซี่" ตัวจริงฟัดบายาโดลิด

 เรอัล บายาโดลิด ออกไปเสมอกับ เซบีย่า 1-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้เจ้าบ้านชนะได้เพียงแค่เกมเดียวจาก 4 เกมหลังสุดในลีก พร้อมกับรั้งอันดับที่ 18 ของตารางคะแนนในเวลานี้ 

    เซร์คิโอ กอนซาเลซ เทรนเนอร์ของทีม ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเพิ่มเติมในนัดนี้ ทำให้เตรียมยึดผู้เล่นชุดเดิมลงสนามทั้งหมด แผงหลัง ปาโบล เอร์เบียส ลงยืนแบ็กขวา, เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ ฆัวกิน ซานเชซ ลงยืนกับ บรูโน่ กอนซาเลซ และ แบ็กซ้ายเป็น ราอูล การ์เนโร่ 

    ในแดนกลาง โรเก้ เมซ่า เดินเกมร่วมกับ รูเบน อัลการาซ และ มิเชล เอร์เรโร่ ส่วนเกมรุกริมเส้นวาง ฟาเบียน โอเรยาโน่ กับ ออสการ์ ปลาโน่ เป็นตัวทะลุทะลวง และสลับมาใช้ เซร์จี้ กวาร์ดิโอล่า ยืนหน้าเป้า

    บาร์เซโลน่า ชนะได้ถึง 2 จาก 3 เกมหลัง โดยเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับ บาเลนเซีย 2-2 พร้อมกับรั้งอันดับที่ 5 ของตารางคะแนนในเวลานี้

    เกมนี้เชื่อว่า โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ชาวฮอลแลนด์ จะปรับทีมอีกครั้งโดยเกมนี้จะยึดระบบ 4-3-3 ต่ออีกนัดและให้ แฟร้งกี้ เดอ ยองก์ กลับมาเป็นตัวจริงร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ เปดรี

     ส่วนเกมรุก ดร็อป ฟิลิเป้ กูตินโญ่ และเลือกใช้ เลโอ เมสซี่,อองตวน กริซมันน์ และ มาร์ติน เบนทเวต ในเกมรับยังเป็นชุดเดิม ออสการ์ มินเกซ่า ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟกับ โรนัลด์ อาเราโฮ แบ็กทั้งสองข้างเป็น เซอร์จินโญ่ เดรสต์ กับ ยอร์ดี้ อัลบา ในรายของในรายของ อันซู ฟาติ, เคราร์ด ปีเก้, เซร์จี้ โรเบร์โต้ และ อุสมาน เดมเบเล่ ยังไม่พร้อมลงเล่น



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563

คล็อปป์ เผย 1 แข้งพูดปลุกใจ เกมทุบ สเปอร์ส

 เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ระบุ ก่อนหน้าเกมกับ สเปอร์ส นั้น จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ช่วยพูดปลุกใจทีมจนทำให้พวกเขาเก็บ 3 แต้มมาได้ พร้อมชม เคอร์ติส โจนส์ ที่มีพัฒนาการอันยอดเยี่ยม

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่า จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลางชาวดัตช์ช่วยพูดปลุกใจคนในทีม ในช่วงก่อนเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    ก่อนลงเล่นนัดดังกล่าว ลิเวอร์พูล กับ สเปอร์ส มี 25 คะแนนเท่ากัน ทำให้หลายคนมองว่านี่เป็นนัดที่จะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ในระยะยาว และสุดท้ายก็เป็นทีมของ คล็อปป์ ที่ได้ 3 แต้มไปครอง โดยพวกเขามาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

    "ถ้าผมจำไม่ผิดเนี่ย ตอนก่อนเกมกับ ท็อตแน่ม จินี่ ตะโกนดังลั่นตอนอยู่ในห้องแต่งตัวว่า -ห้ามเล่นห่วยแตกในครึ่งแรกกันอีกนะพวก!- ซึ่งที่จริงเราก็น่าจะมีคนตะโกนแบบนั้นตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวในช่วงพักครึ่งอีกนะ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็เล่นได้แย่ในอีก 10-15 นาทีหลังจากนั้น" คล็อปป์ ระบุ

    กุนซือชาวเยอรมันกล่าวชม เคอร์ติส โจนม์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งด้วยที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมจนเล่นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา "บางคนอาจจะบอกกับคุณว่าถ้าคุณอยู่กับ ลิเวอร์พูล คุณจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และผมไม่ได้หมายถึงแค่ในระดับสโมสีแต่ผมหมายถึงการอยู่ในเมืองนี้เลย"

    "เคอร์ติส เป็นเพียงเด็กอายุ 19 ปีคนหนึ่งจนกระทั่งถึงเวลาที่เขาลงสนาม ซึ่งที่จริงนักเตะวัยรุ่นทุกคนควรจะเป็นแบบนั้น ส่วนใหญ่แล้วเมื่อนักเตะมีอายุ 19 ปีแล้วน่ะ คุณจะบอกว่าคนๆ นั้นสามารถเล่นพลาดได้เป็นธรรมดา ทุกคนสามารถทำพลาดได้ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่พอเราพูดเกี่ยวกับวัยรุ่นแล้วน่ะเราก็ลืมนึกถึง เคอร์ติส ไปเลย (สื่อว่าแม้ว่า โจนส์ จะอายุน้อย 

แต่เขาก็แทบไม่มีจังหวะเล่นพลาดให้เห็น) เพราะเราไม่ได้มองเขาเป็นเด็กอีกต่อไป ทั้งที่จริงๆ แล้วเขายังเป็นเด็กคนหนึ่งอยู่ เขาต้องทำงานอย่างหนักต่อไป การทำงานอย่างหนักจะทำให้เขาไม่เหลิงมากนัก ทุกอย่างมันเป็นไปด้วยดี และถ้าเขาทำอย่างนั้นได้แล้วล่ะก็ อนาคตของเขาก็อาจจะสดใสสุดๆ เลยล่ะ"



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ฟีฟ่าเผยผลโหวต! "คล็อปป์ " เฉือนฟลิคซิวโค้ชยอดเยี่ยม

 องค์กรลูกหนังโลก เผยคะแนนโหวตที่แสดงให้เห็นว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีฟีฟ่าแบบเฉียดฉิว โดยมีคะแนนเท่ากับ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค แต่มีคะแนนโหวตจากโค้ชทีมชาติมากกว่าเท่านั้น

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยผลโหวตโค้ชชายยอดเยี่ยมประจำปี 2020 หรือ "เดอะ เบสต์ เมนส์ ฟีฟ่า โค้ช ออฟ เดอะ เยียร์" โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เฉือนชนะ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค กุนซือเพื่อนร่วมชาติไปแบบเฉียวฉิว

นายใหญ่ชาวเยอรมัน ปาดหน้าสองผู้ท้าชิงสำคัญอย่าง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ซึ่งนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, และ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค เทรนเนอร์ฝีมือดีที่นำ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ผงาดคว้าทริปเบิลแชมป์ (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

สำหรับผลการโหวตในครั้งนี้ซึ่งมาจากแฟนบอล, นักข่าว, โค้ชทีมชาติ และกัปตันทีม   ฟีฟ่า ได้รับการเปิดเผยให้เห็น โดย คล็อปป์ ได้ 24 คะแนน เท่ากับ ฟลิค แต่ กุนซือ "หงส์แดง" ได้รับชัยชนะเนื่องจากได้คะแนนโหวตจากโค้ชทีมชาติมากกว่า 

ขณะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าบาเยิร์น มิวนิค ได้รับผลโหวตสูงถึง 52 คะแนนคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีฟีฟ่า เอาชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ที่ได้ 38 คะแนน และ ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกอัจฉริยะ บาร์เซโลน่า ที่มีผลโหวต 35 คะแนน 



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/



วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ปีร์โล่ เฉ่ง โมราต้า ยิงพลาด แบบไม่น่าให้อภัย

 อันเดรีย ปีร์โล่ กุนซือ ยูเวนตุส จวก อัลบาโร่ โมราต้า ที่พยายามจะยิงแบบตอกส้นจนสุดท้ายทำให้ทีมอดได้ประตู แต่เสริมว่านอกจากจังหวะนั้น โมราต้า ก็เล่นได้ดีเหมือนกัน

อันเดรีย ปีร์โล่ เทรนเนอร์ ยูเวนตุส ตำหนิ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าชาวสแปนิชที่ยิงพลาดแบบไม่น่าให้อภัย จนส่งผลให้ทีมทำได้เพียงเปิดรัง อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม เสมอกับ อตาลันต้า 1-1 ในเกม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา

นัดนี้ ยูเวนตุส นำก่อนจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า ในนาทีที่ 29 ก่อนที่ เรโม ฟรอยเรอร์ จะตีเสมอให้ทีมเยือนได้ในนาทีที่ 57 โดยที่จริงในนาทีที่ 61 เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษด้วย แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงไม่เข้า จนทำให้ "เบียงโคเนรี่" มีเพิ่มเป็นเพียง 24 แต้ม จากการลงเล่น 12 นัด และยังตามหลัง เอซี มิลาน ที่เป็นจ่าฝูงอยู่ 4 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ชอตพลาดของ โรนัลโด้ เทียบไม่ได้เลยกับจังหวะของ โมราต้า เพราะในนาทีที่ 11 ดาวเตะชาวสแปนิชได้ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายให้ โรนัลโด้ และหลังจากนั้นบอลก็กระฉอกมาเข้าทาง โมราต้า โดยตอนนั้นปากประตูก็โล่งโจ้งด้วย แต่เขาเลือกที่จะยิงแบบตอกส้น ซึ่งมันก็ไม่แม่นยำพอจนทำให้บอลกลิ้งออกหลังไป

ปีร์โล่ เผยว่า "จังหวะพลาดของ โรนัลโด้ มันน่าเสียดาย เพราะมันน่าจะช่วยทำให้เราขึ้นนำได้ แต่เรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา ตรงกันข้าม จังหวะพลาดของ โมราต้า ทำให้ผมโมโหมากๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย"



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563

มูรินโญ่ คว้ากุนซือยอดเยี่ยมพรีเมียร์ฯ

มูรินโญ่ คว้ากุนซือยอดเยี่ยมพรีเมียร์ฯ เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังนายใหญ่ สเปอร์ส ดันสปอยก่อนหน้าประกาศทางการ


โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำเดือนพฤศจิกายน  จากการประกาศผลโหวตอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    กุนซือชาวโปรตุกีส นำ สเปอร์ส ชนะ 3 เกม เสมอ 1 เกมตลอดเดือนที่แล้ว โดยทำได้ 5 ประตู และเสียเพียงลูกเดียวเท่านั้น ส่งผลให้เอาชนะทั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด (เชลซี ผลงานชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0),  เดวิด มอยส์ (เวสต์แฮม ผลงานชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0) และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานชนะ 3  เสมอ 0 แพ้ 1) 

ก่อนหน้าที่จะประกาศรางวัลทางการนั้น มูรินโญ่ เป็นคนออกมาเผยเองว่าตนได้รางวัลนี้ผ่านทาง อินสตาแกรม โดยระบุว่า "อันดับแรกเลย ผมขอพูดก่อนว่าจริงอยู่ว่ารางวัลนี้ชื่อว่า -ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน- แต่สำหรับผมแล้วมันควรเป็นชื่อ -ทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน- หรือ -ทีมสตาฟฟ์ยอดเยี่ยมประจำเดือน- มากกว่า




วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

คาวานี่ ลงมาโขกเบิ้ล แซง เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2


การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020/21 เซาธ์แฮมป์ตัน อันดับ 5 เปิดสนามเซนต์ แมรีส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 13 ของตาราง

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-4-2 ธีโอ วัลค็อตต์ กับ เช อดัมส์ ค้ำแดนหน้า เจมส์ วอร์ด-พราวส์ คุมจังหวะตรงกลางสนาม ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-3-1-2 บรูโน แฟร์นันเดส ยืนหน้าต่ำ คู่หัวหอกใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จับคู่ เมสัน กรีนวูด

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพปีศาจแดงบุกเอาชนะไปอย่างสุดมัน 3-2 ได้จาก บรูโน แฟร์นันเดส นาที 59 ก่อนที่ตัวสำรอง เอดินสัน คาวานี จะเหมาโหม่งสองลูกในนาที 74 และ 90+3 ส่วนทัพนักบุญขึ้นนำก่อน 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก จาก แยน เบดนาเร็ก แนวรับทีมชาติโปแลนด์ขึ้นมาโขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายนาทีที่ 23 และ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ยิงฟรีคิกสุดสวยนาที 33

จากการชัยชนะนัดนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเพิ่มเป็น 16 คะแนน จาก 9 นัด ด้าน เซาธ์แฮมป์ตัน มี 17 คะแนนเท่าเดิม จาก 10 นัด


ติดตาม >> http://monclerjacketsoutletsalesonline.com/

>> http://seckauer-keramik.com/

บาร์เซโลน่า เฝ้ารังถล่ม โอซาซูน่า 4-0


การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน 2020/21 บาร์เซโลน่า อันดับ 14 เปิดสนามคัมป์ นู รับการมาเยือนของ โอซาซูน่า ทีมอันดับ 15 ของตาราง


วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-3-3 ลิโอเนล เมสซี, อองตวน กรีซมันน์ และ มาร์ติน เบรธเวต เป็นสามประสานในแดนหน้า ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-4-2 อูไน การ์เซีย คุมแนวรับ อันเต บูดิเมียร์ จับคู่ รูเบน การ์เซีย ล่าตาข่าย


ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพต่างดาวเป็นฝ่ายเอาชนะไปไม่ยากเย็น 4-0 ได้ประตูจาก มาร์ติน เบรธเวต นาทีที่ 30, อองตวน กรีซมันน์ นาทีที่ 42, ฟิลิปเป คูตินโญ นาที 57 และ ลิโอเนล เมสซี นาที 73


จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ บาร์เซโลน่า มีเพิ่มเป็น 14 คะแนน จาก 9 นัด ส่วน โอซาซูน่า มี 11 คะแนนเท่าเดิม จาก 10 นัด


ติดตาม >> http://monclerjacketsoutletsalesonline.com/

>> http://seckauer-keramik.com/

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เปลี่ยนผมลีบแบน ให้หนาฟูมีวอลลุ่ม

สาวๆ คนไหนมีปัญหาผมลีบแบน ผมจัดทรงยาก จนเกิดความไม่มั่นใจในการออกจากบ้านแต่ละครั้งอยู่ใช่ไหมคะ ใครมีปัญหานี้ ลองมาดูเทคนิคง่ายๆ กับวิธีเพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูหนา มีวอลลุ่ม สวยแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องง้อร้านทำผมกัน มาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ



วิธีที่ 1 เป่าย้อนแนวเส้นผม
ซับผมให้หมาด

- ก้มศีรษะลง 90 องศา ตลบผมมาด้านหน้า
- ใช้ไดร์เป่าย้อนโคนผมตั้งแต่ท้ายทอยขึ้นมา
- สางผมด้วยนิ้วมือหรือหวีไปด้วย จะช่วยยกโคนผมให้พองตัวดูเป็นธรรมชาติ


วิธีที่ 2 หนีบยกโคนผม

- จับผมขึ้นมาทีละช่อยกขึ้น 45 องศา
- หนีบจากโคนไปปลายผม ลักษณะโค้งเป็นตัว C
- ทำแบบนี้จนครบทั้งศีรษะ


วิธีที่ 3 สร้างTexture
- ฉีดดรายแชมพูบริเวณโคนผมและหนังศีรษะ
- ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที แล้วหวีจัดแต่งทรงผมตามปกติ
- ดรายแชมพูจะดูดซับความมัน
- สร้างTexture ให้ผมมีวอลลุ่ม


วิธีที่ 4 เปลี่ยนข้างแสกผม
- ลองเปลี่ยนข้างแสกผมของตัวเอง
- นอกจากจะช่วยให้มีวอลลุ่ม ยังช่วยให้ผมดูหนาขึ้นด้วย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เคราตินกับเส้นผม เคราตินช่วยบำรุงผมให้สวยได้จริงหรือ?

หลายๆ คนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ ทรีตเมนต์บำรุงผมด้วยการใช้ "เคราติน" มาบ้างว่า เมื่อทำแล้วจะช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่แห้งเสีย กลับมามีสุขภาพดีดั่งเดิม เพียงแค่เห็นสรรพคุณก็ทำให้บรรดาสาวๆ ที่รักเส้นผม ถึงกับต้องหันมาสนใจกันเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ แต่ความจริงแล้วเคราตินช่วยบำรุงเส้นผมได้จริงหรือ? เมื่อทำไปแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า? ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่อง เคราตินกับเส้นผม มาฝากกัน

ทำความรู้จัก เคราตินกับเส้นผม
โดยปกติ เคราติน เป็นโปรตีนที่มักจะอยู่ในเส้นผม เล็บ และผิวหนัง แต่สำหรับ เคราตินกับเส้นผม นั้น เคราตินที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงผมตามร้านเสริมสวยต่างๆ จะเป็นเคราตินครีม ที่มีสารเคมี ชื่อว่า “ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)” เป็นส่วนผสมอยู่ สารนี้จะถูกแปรงเข้าสู่เส้นผม ด้วยการเป่าให้แห้งและรีดด้วยที่หนีบผมอีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนการทำทั้งหมดจะทำไปทำปฏิกิริยากับเคราตินในเส้นผม ทำให้ผมหยิก หรือผมหยักศก ตรงขึ้น
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่เป็นส่วนผสมในเคราตินครีม ถือเป็นสารที่มีอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ฟอร์มาลดีไฮด์ เป็นก๊าซที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นที่รุนแรง เมื่อดวงตาหรือผิวหนังโดนฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) มันจะส่งผลให้เกิดความระคายเคืองที่ตา จมูก และลำคอ ทำให้เกิดอาการไอ หายใจดัง และอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงที่บริเวณ
ดวงตา ผิวหนัง รวมถึงระบบทางเดินหายใจ การได้รับฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ในระดับสูง อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ ยิ่งเคราตินครีมได้รับความร้อน ก็จะยิ่งปล่อยฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่มีความเข็มข้นสูงมากออกมา ดังนั้น เหล่าช่างทำผมที่ใช้เคราตินซ้ำๆ ในการดูแลเส้นผม จะมีความเสี่ยงมากที่สุด
ทั้งนี้ องค์การอาหารและยาและการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) ได้ตรวจสอบระดับฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว
เคราตินช่วยบำรุงผมสวยได้จริงหรือ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผลลัพธ์ของการทำเคราตินบนเส้นผมขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของคุณด้วยว่าแข็งแรงแค่ไหน และมีความหนามากน้อยเพียงใด แต่บางคนก็อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า เคราตินช่วยบำรุงผมได้จริงหรือ แล้วเมื่อทำแล้วสภาพเส้นผมจะเป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นลองไปดูข้อมูลเหล่านี้กันดีกว่า
ทำให้ผมเรียบ เติมโปรตีนในช่องว่างของเส้นผมแต่ละเส้น ช่วยทำให้ผมดูหนาขึ้น และเรียบเนียนขึ้น ทำให้ผมดูเงางาม และตรง ทำให้คุณดูแล และจัดการผมได้ง่ายขึ้น ข้อควรรู้เมื่อต้องการทำเคราติน
สำหรับผู้ที่ต้องการทำเคราติน มีข้อควรรู้บางอย่างที่ควรรู้ไว้เบื้องต้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำเคราตินมากที่สุด
การทำเคราตินใช้เวลาในการทำ 90 นาที หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ถ้าเป็นผู้ที่นิยมผมตรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การทำเคราตินจะช่วยลดเวลาในการเป่าผมลง 40-60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากทำเคราติน คุณก็ไม่ต้องกลัวเรื่องของผมหยิกอีกต่อไป 
เมื่อทำเคราตินไปแล้ว อย่าเพิ่งสระผม ควรปล่อยทิ้งไว้ 3-4 วัน ควรสระผมด้วยแชมพูที่ไม่มีโซเดียมซัลเฟต เพื่อรักษาประสิทธิภาพของเคราตินเอาไว้ เคราตินจะช่วยทำให้ผมคุณตรงและดูสุขภาพดีได้ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ถึง 2 เดือนครึ่ง
ทั้งนี้ หากเกินอาการแพ้ หลังจากการทำเคราติน แนะนำว่าควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อจะได้การวินิจฉัย และการรักษาที่ถูกต้อง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีบำรุงเส้นผม เบสิกสำหรับคุณสาว ๆ ลองทำตามดู รับรองว่าผมจะสวย เงางาม สุขภาพดี

 วิธีบำรุงเส้นผม  เบสิกสำหรับคุณสาว ๆ ลองทำตามดู รับรองว่าผมจะสวย เงางาม สุขภาพดี


1. อย่าสระผมทุกวัน

การสระผมทุกวันไม่ได้ช่วยให้ผมสุขภาพดีอย่างที่คิด ในทางกลับกันการสระผมบ่อย ๆ ทุกวัน จะเป็นการทำร้ายเส้นผมทำให้ผมอ่อนแอ เพราะไขมันที่เคลือบอยู่บนเส้นผมจะถูกชำระล้างออกไป นาน ๆ เข้าทำให้กลายเป็นปัญหาหนังศีรษะแห้งจนเป็นรังแคได้ง่าย เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเลิกสระผมทุกวันเสียเถอะนะคะ แล้วเปลี่ยนมาสระผมวันเว้นวันก็เพียงพอแล้ว

2. บำรุงผมด้วยครีมนวดทุกครั้งหลังสระผม

หลังสระผมทุกครั้งสาว ๆ ควรบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวด เพราะครีมนวดจะช่วยปิดเกล็ดเส้นผมหลังสระ ทำให้เส้นผมนุ่มสสวย เงางาม มีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู และยังช่วยป้องกันผมแห้งเสียจากการโดนความร้อนได้ดีอีกด้วย

3. หวีผมอย่างเบามือ

แม้ว่าจะเร่งรีบสักแค่ไหน แต่คุณก็ไม่ควรรีบหวีผมให้เร็วและแรงจนเกินไป ควรหวีผมอย่างอ่อนโยนเบามือ ไม่งั้นละก็ผมของคุณคงหลุดร่วงออกมาเป็นกำเลยล่ะ นอกจากนี้คุณก็ไม่ควรหวีผมในขณะที่ผมเปียกด้วย เพราะเป็นช่วงเวลาที่รากผมกำลังอ่อนแอ หากใครผมร่วงบ่อยหรือมีปัญหาผมบาง ลองสังเกตพฤติกรรมการหวีผมของตัวเองให้ดี แล้วรีบแก้ไขซะเถอะ

4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมที่ดี

เดี๋ยวนี้พวกแชมพู ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผมต่างก็มีออกมาให้เลือกใช้หลากหลายยี่ห้อ ฉะนั้นเมื่อไปซื้อแต่ละที ควรอ่านฉลากเพื่อดูส่วนผสม สรรพคุณ และเลือกที่เหมาะกับสภาพผมก่อน วิธีง่าย ๆ นี้จะช่วยให้ผมของคุณไร้ปัญหาแถมยังไม่เสียดายเงินที่เสียไปด้วย ก็เพราะเดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผมแต่ละอย่างก็ไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ

5. หมักผมด้วยทรีตเมนต์ไข่

ไข่ วัตถุดิบคู่ครัวที่สามารถช่วยบำรุงฟื้นฟูผมได้เป็นอย่างดี ลองนำไข่ 1 ฟอง มาตีให้ไข่แดงและไข่ขาวรวมกัน จากนั้นนำมาหมักผม 20 นาที โดยทำเพียงสัปดาห์ละครั้ง หรือจะผสมน้ำมันมะกอกลงไปด้วยก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้ผมนุ่มสลวยขึ้นได้ ลองทำติดต่อกันสัก 2-3 สัปดาห์ แล้วจะทึ่งกับผลลัพธ์เลยล่ะ

6. บำรุงผมด้วยน้ำมันหลากชนิด

วิธีที่เซเลบริตี้ผู้มีผมเงางามหลายคนเลือกใช้ อย่างการบำรุงผมอย่างสม่ำเสมอด้วยบรรดาน้ำมันต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยให้ผมนุ่มสลวย น้ำมันมะกอกเพื่อผมเงางาม และน้ำมันอัลมอนด์เพื่อให้ผมแข็งแรง ควรหมักผมด้วยน้ำมันเหล่านี้ก่อนสระผมประมาณ 1 ชั่วโมงทำติดต่อกัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ผมของคุณก็จะสลวยสวยเก๋จนน่าอิจฉา

7. ไม่ควรจัดแต่งทรงผมบ่อย ๆ

พวกเครื่องม้วนผมไฟฟ้า เครื่องหนีบ ไดร์เป่าผม หรือเครื่องจัดแต่งทรงผมต่าง ๆ ที่ทำให้ผมต้องโดนความร้อน ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผมของคุณมีปัญหาเลยล่ะ ฉะนั้นอย่าให้ผมโดนความร้อนบ่อยเกินไปนัก ให้ลองปล่อยทรงตามธรรมชาติบ้าง ไม่งั้นละก็รากผมและหนังศีรษะของคุณจะอ่อนแอจนต้องเยียวยารักษากันหนักเลยทีเดียว

8. เลี่ยงใช้น้ำร้อนกับเส้นผม

แม้ว่าคุณจะรู้สึกหนาวกายแค่ไหน แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนมาสระผม เพราะน้ำร้อน ๆ นี่แหละที่จะทำให้ผมของคุณแห้งเสียจนน่าตกใจ ในทางกลับกันการใช้น้ำเย็นจะเป็นมิตรต่อผมมากกว่า แถมยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผม ทำให้ผมเงางาม และไม่ทำให้ผมเปราะหักง่ายอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีดูแลเส้นผม ทำตามนี้ บอกลาผมแห้งชี้ฟู ไร้น้ำหนักได้เลย


วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีดูแลเส้นผม ทำตามนี้ บอกลาผมแห้งชี้ฟู ไร้น้ำหนักได้เลย


สำหรับสาวๆ หลายคนที่ยังไม่พอใจกับเส้นผมของตัวเอง อาจจะเพราะปัญหาผมที่แห้งชี้ฟูไม่มีน้ำหนักเงางามและยังไม่รู้ว่าจะดูแลอย่างไร 
วันนี้เรามีเทคนิคการดูแลเส้นผมที่ทำได้เองที่บ้าน รับรองว่าไม่นานเส้นผมที่นุ่มสลวย มีน้ำหนักและเงางามจะมาปรากฏอย่างแน่นอน
1.นวดศีรษะยามสระผม
เมื่อใดก็ตามที่สระผม ควรใช้ปลายนิ้วนวดลงบนหนังศีรษะเบาๆ ทุกครั้ง เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิตจนทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยให้เส้นผมได้รับน้ำมันจากธรรมชาติมากกว่าเดิมด้วย
2.หวีผมขณะที่แห้ง
หลังจากการสระผมเสร็จหมาดๆ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้หวีหวีผมทันที เพราะขณะที่ผมเปียกนั้นการหวีจะทำให้เส้นผมขาดง่ายกว่าปกติ 
ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมอ่อนแอมากอีกด้วย และหวีที่แนะนำควรจะเป็นหวีซี่ห่าง เพราะจะช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น
3.ไดร์ผมอย่างถูกต้อง
เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังใช้ไดร์เป่าผมไม่ถูกวิธีซึ่งจะทำให้ผมเสียโดยไม่รู้ตัว เพราะการใช้ไดร์เป่าผมที่ถูกต้องและดีที่สุดนั้นควรที่จะใช้เป่าจากส่วนบนลงไปด้านล่าง 
จากโคนของเส้นผมไปสู่ปลายผม เพราะวิธีนี้จะช่วยให้เกล็ดผมเรียงกันอย่างเป็นธรรมชาติและยังทำให้ผมนุ่มสลาย สวยงาม ที่สำคัญผมจะไม่ชี้ฟูอย่างแน่นอน
4.ปกป้องเส้นผมจากความร้อนอยู่เสมอ
ก่อนหนีบผมหรือม้วนผมลอนด้วยอุปกรณ์ทำผมไฟฟ้า ควรปกป้องเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเสมอ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะเข้าไปทำลายความชุ่มชื้นของผม ทำให้เส้นผมแห้งเสียและแตกปลายง่าย
5.กินอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่ดีมีประโยชน์นอกจากจะบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และช่วยบำรุงผิวให้สวยได้แล้ว รู้หรือไม่คะว่ามันยังมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงเงางามและมีน้ำหนักได้อีกด้วย 
หากอยากให้ผมมีสุขภาพดีก็ควรกินผักผลไม้และอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ขัดสี และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดจนการสูบบุหรี่ เพื่อลดการทำลายเส้นผมลงนั่นเอง
6.ปกป้องเส้นผมจากแสงแดด
นอกจากอุปกรณ์ทำผมไฟฟ้าที่เป็นตัวการทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมแล้ว แสงแดดก็นับเป็นศัตรูตัวกฉาจที่ทำลายผมให้แห้งกรอบได้เช่นเดียวกัน 
ดังนั้น จึงควรปกป้องเส้นผมจากแสงแดดก่อนออกแดดด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อน และที่สำคัญควรสวมหมวกปีกกว้างหรือกางร่มปกป้องแสงแดดเป็นประจำด้วยจะดีที่สุด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ กับวิธีดูแลเส้นผมให้สวย 6 ข้อ หากทำตามนี้เป็นประจำ สุขภาพผมสวยดั่งใจต้องการจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน 
และถ้าจะให้ดีเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น สาวๆ อาจจะหาเวลาทำทรีทเมนท์ผมบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะดีที่สุด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

วิธีดูแลเส้นผม ทำตามนี้ บอกลาผมแห้งชี้ฟู ไร้น้ำหนักได้เลย

สำหรับสาวๆ หลายคนที่ยังไม่พอใจกับเส้นผมของตัวเอง อาจจะเพราะปัญหาผมที่แห้งชี้ฟูไม่มีน้ำหนักเงางามและยังไม่รู้ว่าจะดูแลอย่างไร วันนี้เรามีเทคนิคการดูแลเส้นผมที่ทำได้เองที่บ้าน รับรองว่าไม่นานเส้นผมที่นุ่มสลวย มีน้ำหนักและเงางามจะมาปรากฏอย่างแน่นอน


1.นวดศีรษะยามสระผม

เมื่อใดก็ตามที่สระผม ควรใช้ปลายนิ้วนวดลงบนหนังศีรษะเบาๆ ทุกครั้ง เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิตจนทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยให้เส้นผมได้รับน้ำมันจากธรรมชาติมากกว่าเดิมด้วย

2.หวีผมขณะที่แห้ง

หลังจากการสระผมเสร็จหมาดๆ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้หวีหวีผมทันที เพราะขณะที่ผมเปียกนั้นการหวีจะทำให้เส้นผมขาดง่ายกว่าปกติ ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมอ่อนแอมากอีกด้วย และหวีที่แนะนำควรจะเป็นหวีซี่ห่าง เพราะจะช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น

3.ไดร์ผมอย่างถูกต้อง

เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังใช้ไดร์เป่าผมไม่ถูกวิธีซึ่งจะทำให้ผมเสียโดยไม่รู้ตัว เพราะการใช้ไดร์เป่าผมที่ถูกต้องและดีที่สุดนั้นควรที่จะใช้เป่าจากส่วนบนลงไปด้านล่าง จากโคนของเส้นผมไปสู่ปลายผม เพราะวิธีนี้จะช่วยให้เกล็ดผมเรียงกันอย่างเป็นธรรมชาติและยังทำให้ผมนุ่มสลาย สวยงาม ที่สำคัญผมจะไม่ชี้ฟูอย่างแน่นอน


4.ปกป้องเส้นผมจากความร้อนอยู่เสมอ

ก่อนหนีบผมหรือม้วนผมลอนด้วยอุปกรณ์ทำผมไฟฟ้า ควรปกป้องเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเสมอ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะเข้าไปทำลายความชุ่มชื้นของผม ทำให้เส้นผมแห้งเสียและแตกปลายง่าย

5.กินอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่ดีมีประโยชน์นอกจากจะบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และช่วยบำรุงผิวให้สวยได้แล้ว รู้หรือไม่คะว่ามันยังมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงเงางามและมีน้ำหนักได้อีกด้วย หากอยากให้ผมมีสุขภาพดีก็ควรกินผักผลไม้และอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ขัดสี และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดจนการสูบบุหรี่ เพื่อลดการทำลายเส้นผมลงนั่นเอง

6.ปกป้องเส้นผมจากแสงแดด

นอกจากอุปกรณ์ทำผมไฟฟ้าที่เป็นตัวการทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมแล้ว แสงแดดก็นับเป็นศัตรูตัวกฉาจที่ทำลายผมให้แห้งกรอบได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงควรปกป้องเส้นผมจากแสงแดดก่อนออกแดดด้วยผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อน และที่สำคัญควรสวมหมวกปีกกว้างหรือกางร่มปกป้องแสงแดดเป็นประจำด้วยจะดีที่สุด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ กับวิธีดูแลเส้นผมให้สวย 6 ข้อ หากทำตามนี้เป็นประจำ สุขภาพผมสวยดั่งใจต้องการจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน และถ้าจะให้ดีเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น สาวๆ อาจจะหาเวลาทำทรีทเมนท์ผมบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะดีที่สุด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563

#อินสาริน ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ1 หลังข่าวลือพระเอกน้ำส้มสายชูซุ่มคบไฮโซโปรไฟล์เริ่ด


ทำเอาเลือดสาววายสูบฉีดขึ้นมาทันที เมื่อมีข่าวเม้าท์ว่ามี พระเอกน้ำส้มสายชูปลูกต้นรักไฮโซหนุ่มโปรไฟล์เริ่ด และไฮโซคนนี้ก็ยังเป็นน้องชายของไฮโซเมียสวย งานนี้หวยก็เลยมาออกที่ชื่อของพระเอกหนุ่มหน้าใส อิน สาริน ที่ชื่อดันไปตรงกับคำใบ้น้ำส้มสายชู อสร 
ซึ่งล่าสุด #อินสาริน ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ไปแล้ว และกระแสในโลกโซเชียลที่ต่างหวีดร้องยินดีถ้าหากข่าวลือนี้จะเป็นเรื่องจริงถ้าหาก อิน และไฮโซหนุ่มหล่อที่มีชื่อออกมาว่าเป็น ไท้ วสุวัส น้องชาย ไฮโซเซนต์ สามีของนางเอก มิว นิษฐา จะเป็นคนสนิทกันจริง 
และภาพที่หลายคนเอามาเทียบกันระหว่าง อิน และ ไท้ ที่บังเอิญอยู่ในสถานที่เดียวกัน ใส่เสื้อเหมือนกัน ก็ยิ่งตอกย้ำข่าวลือดังกล่าว แน่นอนว่าคนที่เห็นและเชียร์คู่นี้เยอะมาก บอกว่าเหมาะสมกัน และโลกที่เปิดกว้าง บอกว่านี่มีันปี 2020 แล้ว 
ซึ่งเรื่องนี้ก็คงต้องรอให้ อิน สาริน ออกมาพูดเองว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นไปตามข่าวหรือไม่ 



วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

"แพท ณปภา" ตอบข้อสงสัย ทำไม "เรซซิ่ง" เรียก "ก็อต" ว่าพ่อ


ยังคงถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องสำหรับเรื่องราวรักครั้งใหม่ของสาวสตอง แพท ณปภา ที่ตอนนี้กับคุยศึกษาอยู่กับหนุ่มรุ่นน้องงานดีชื่อว่า "ก็อต" 
แต่สาวแพทยังคงให้สถานะหนุ่มก็อตเป็นเพียงเพื่อน และศึกษากันไปเรื่อยๆ ก่อน แต่สิ่งที่หลายคนอดสงสัยไม่ได้ คือ ในบางคลิป จะได้ยิน "น้องเรซซิ่ง" ลูกชายสุดที่รักของสาวแพท
เรียกก็อตว่า "แดดดี้" หรือ พ่อ กลายเป็นที่จับตามองว่า รักครั้งนี้สาสวแพทนั้นจริงจังและมั่นใจมากถึงให้ลูกเรียกฝ่ายชายเช่นนั้น




วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563

น้องดีแลน ดูแลน้องสาวแทนแม่ ตั้งใจหวีผมให้น้องเดมี่ น่าเอ็นดูมาก


คู่ของ ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ และสามี แมทธิว ดีน หลังจากประกาศว่าติดโควิด-19 จนตอนนี้ก็รักษาตัวมากว่าหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ซึ่งผลก่อนหน้านี้ก็ยังเป็นบวก และหลายคนที่ส่งกำลังใจช่วยอยากให้ แมทธิว-ลิเดีย ออกมาจากโรงพยาบาลเร็วๆ จะได้มาเจอหน้าลูกๆ น้องดีแลน-น้องเดมี่ สักที 
ซึ่งลูกๆ ทั้งสองคนก็น่ารักมาก ดูแล้ว ลิเดีย-แมทธิว ก็คงมีกำลังใจมากขึ้น ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง เมื่อได้เห็นความน่ารักของลูกๆ อย่างช่วงวันสงกรานต์ที่ น้องดีแลน-น้องเดมี่ รดน้ำดำหัวคุณตาคุณยายแทนแม่ลิเดียไปแล้ว
ภาพความน่ารักล่าสุดในอินสตาแกรมน้องเดมี่ @ demi_deane ก็ได้เห็นคลิปที่น้องดีแลน ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดี หวีผมให้กับน้องสาว น้องเดมี่ นั่งอยู่บนโซฟาน่ารักน่าเอ็นดูมากลูก พร้อมกับแคปชั่นที่ลิเดียเขียนไว้ว่า #ยักษ์แอนด์แป๋ว ดูแลน้องแทนหม่ามี๊ครับผม looking after my sister